คาปาซิเตอร์กำลังในระบบไฟฟ้าแรงต่ำที่ใช้และมีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน นั้น สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- แบ่งตามการระบายความร้อน
1.1 ระบายความร้อนด้วยอากาศ (Dry Type)
1.2 ระบายความร้อนด้วยน้ำมัน (Oil Type)
2. แบ่งตามลักษณะพื้นที่ติดตั้ง
2.1 ติดตั้งภายในอาคาร (Indoor Type)
2.2 ติดตั้งภายนอกอาคาร (Outdoor Type)
3. แบ่งตามรูปทรงตัวถัง
3.1 ทรงกระบอก (Cylindrical Shape)
3.2 ทรงสี่เหลี่ยม (Box Shape)
อื่น ๆ อาจแบ่งได้ตามชนิดของวัสดุฉนวนที่ใช้
ปัจจุบันมีความนิยมใช้คาปาซิเตอร์ทรงกระบอกที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ ติดตั้งภายในอาคาร (Indoor Type, Naturally air cooled or forced air cooling) เพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก มีขนาดเล็กน้ำหนักไม่มาก ทำให้ประหยัดพื้นที่ติดตั้ง และราคาต่ำกว่าแบบน้ำมัน โดยโครงสร้างภายในประกอบด้วยม้วนแผ่นฟอยล์ตัวนำบางๆเคลือบฉนวน (Polypropylene film) พันเป็นม้วนตามค่าความจุที่กำหนด วางซ้อนกัน 3 ชุด บรรจุอยู่ในกระบอกอลูมิเนียม (Extruded round aluminum can with stud) และต่อขึ้นขั้วเทอมินอลด้านบนแบบเดลต้า (Three-phase, delta conected)สำหรับการใช้งานในระบบ 3 เฟส มีตัวต้านทานต่อคร่อมที่ขั้วอาจจะต่ออยู่ภายในหรือภายนอกสำหรับช่วยคายประจุเมื่อปลดแหล่งจ่ายไฟฟ้า ให้เหลือค่าแรงดันตกค้างไม่เกิน 75V ภายใน 3 นาที ตามมาตรฐาน IEC ส่วนด้านใต้ตัวถังเป็นสตัดสำหรับยืดกับเพลทวางและต่อสายกราวด์ระบบ
เทคโนโลยีที่ใช้เป็นแบบ Self-healing คือ การทำปฏิกิริยาของฉนวนในการซ่อมแซมจุดที่เสียหายด้วยตัวเองส่วน
ระบบความปลอดภัย (Safety system) ส่วนใหญ่จะใช้ฟิวส์ภายในต่อระหว่างขั้วที่ฝากับตัวโมดูลภายใน ทั้ง 3เฟสเมื่อเกิดความร้อนหรือช็อตเซอร์กิตภายในจะทำให้เกิดแรงดัน ดันฝากระบอกให้โก่งตัวขึ้นจนฟิวส์ภายในตัดจงจรไฟฟ้า
แบบทรงกระบอกอลูมิเนียมที่ระบายความร้อนด้วยอากาศนี้ มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ อาทิเช่น PTES, Epcos, Franke, Ducati, Electronicon, Circutor, RTR, Frako, Schneider, Samwha…
แบบทรงกล่องเหล็กสี่เหลี่ยมที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ เช่น ABB, Schneider, Nokien, Precise…
แบบทรงกล่องเหล็กสี่เหลี่ยมที่ระบายความร้อนด้วยน้ำมัน เช่น PTES, Shuzuki, Samwha…